สมาชิกประกอบด้วย
รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย (แพท) - Vocal
ณัฐวัฒน์ แสงวิจิตร (ณัฐ) - Guitar
คียาภัทร โพธิ์วงศ์ไพรเลิศ (คี) - Bass
นัฐ นิลวิเชียร (นัฐ) - Drum
ปนัสฐ์ นาครำไพ (พ้อยท์) - Piano
ณัฐวัฒน์ แสงวิจิตร (ณัฐ) - Guitar
คียาภัทร โพธิ์วงศ์ไพรเลิศ (คี) - Bass
นัฐ นิลวิเชียร (นัฐ) - Drum
ปนัสฐ์ นาครำไพ (พ้อยท์) - Piano
KLEAR คือ สี่คนรุ่นใหม่บนเส้นทางสายดนตรีที่มารวมกลุ่มกันโดยมีความฝันเป็นที่ตั้ง
เริ่ม ต้นในปี 2545 จากการประกวดวงดนตรีในมหาวิทยาลัย KLEAR ผ่านการประกวดมาหลายเวที
เช่น Bangkok Music Awards, Thailand University Music Awards หรือเวที GBOB ซึ่งในทุกเวที
พวกเขาก็ได้คว้า รางวัลสำคัญ ๆ มากมาย รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมบนเวทีของเทศกาลดนตรีต่าง ๆ
ไม่ ว่าจะเป็น Pattaya Music Festival, Fat Festival, Indy In Town เป็นต้น
เริ่ม ต้นในปี 2545 จากการประกวดวงดนตรีในมหาวิทยาลัย KLEAR ผ่านการประกวดมาหลายเวที
เช่น Bangkok Music Awards, Thailand University Music Awards หรือเวที GBOB ซึ่งในทุกเวที
พวกเขาก็ได้คว้า รางวัลสำคัญ ๆ มากมาย รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมบนเวทีของเทศกาลดนตรีต่าง ๆ
ไม่ ว่าจะเป็น Pattaya Music Festival, Fat Festival, Indy In Town เป็นต้น
จนวันหนึ่ง ทั้งสี่คนก็ได้พบกับ ต้า จากวง PARADOX และก็ร่วมทำ DEMO อัลบั้มของ KLEAR
โดย ต้า รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์อัลบั้มนี้ และยังได้แนะนำวง KLEAR ให้เข้ามาคุยกับสังกัดจีนี่
เร็คคอร์ด หลังจากนั้นไม่นาน KLEAR ก็เข้าเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวภายใต้สักกัดจีนี่
ภายในปี 2550 นี้เอง
โดย ต้า รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์อัลบั้มนี้ และยังได้แนะนำวง KLEAR ให้เข้ามาคุยกับสังกัดจีนี่
เร็คคอร์ด หลังจากนั้นไม่นาน KLEAR ก็เข้าเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวภายใต้สักกัดจีนี่
ภายในปี 2550 นี้เอง
แนวเพลงของ KLEAR
เป็นการรวมหลาย ๆ แนวเข้าด้วยกัน เช่น เมโลดี้ที่เปล่งเสียงอย่างหม่นเศร้าและโหยหวน
มีกลิ่นไอของดนตรีแบบโก ธิค (Gothic) แต่ในขณะเดียวกันบางเพลงออกเป็นแจ๊ส แต่ส่วนของกลอง
กลับ เป็นร็อกมัน ๆ ลักษณะเด่นคือแพทเทิร์นกลองของมือซ้าย (นัฐ – มือกลองเป็นคนถนัดซ้ายแต่
สามารถตีได้ทั้ง 2 มือ) ทำให้เป็นไลน์กลองที่ไม่เหมือนใครและลอกเลียนแบบได้ยาก
สำหรับไลน์ เปียโน เป็นเปียโนในท่วงทำนองและกลิ่นอายดนตรีคลาสิคที่ผสมของเสียงซินธีไซเซอร์ ด้วย
ซึ่งเสียงซินธีไซเซอร์นี้มาจากเบสซึ่งทำให้ตัวเพลงมีความน่าสนใจ อย่างมาก
เป็นการรวมหลาย ๆ แนวเข้าด้วยกัน เช่น เมโลดี้ที่เปล่งเสียงอย่างหม่นเศร้าและโหยหวน
มีกลิ่นไอของดนตรีแบบโก ธิค (Gothic) แต่ในขณะเดียวกันบางเพลงออกเป็นแจ๊ส แต่ส่วนของกลอง
กลับ เป็นร็อกมัน ๆ ลักษณะเด่นคือแพทเทิร์นกลองของมือซ้าย (นัฐ – มือกลองเป็นคนถนัดซ้ายแต่
สามารถตีได้ทั้ง 2 มือ) ทำให้เป็นไลน์กลองที่ไม่เหมือนใครและลอกเลียนแบบได้ยาก
สำหรับไลน์ เปียโน เป็นเปียโนในท่วงทำนองและกลิ่นอายดนตรีคลาสิคที่ผสมของเสียงซินธีไซเซอร์ ด้วย
ซึ่งเสียงซินธีไซเซอร์นี้มาจากเบสซึ่งทำให้ตัวเพลงมีความน่าสนใจ อย่างมาก
ตัวอย่างเพลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น